โดย แม่ชม เผยว่า “ไปดูโรงเรียนลูกถูกใจพ่อที่สุด แต่แม่ขอเวลาทำใจ จริงๆ ก็ยังไม่ใช่เวลานี้ อีก 8-9 ปี ถามว่าทำไมต้องทำใจ 20 ปี ก็รู้สึกว่ามันไวมาก ตอนนี้เขาก็ 6 ขวบแล้ว รู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็ว ที่นั่นรับตอน 13 ก็แป๊บเดียว”
“เหมือนเราไปทำความรู้จักมากกว่า เขายังไม่ได้รับเรา ก็ไปดูว่าเป็นยังไง เพราะเป็นโรงเรียนกินนอนถ้าไปอยู่จะเป็นยังไงบ้าง เหมือนสอบต้องเตรียมตัวยังไง ไปอยู่แล้วจะออกมาได้แค่ไหน เสาร์-อาทิตย์ ออกมาได้แค่ไหน รวมถึงเรื่องกฎระเบียบต่างๆ เหมือนไปเรียนรู้และพิจารณา ลูกๆ เขาก็ตื่นเต้น แต่สายฟ้าก็แบบเริ่มมีนึกถึงอนาคต มีลังเลว่าจะไม่ได้อยู่กับบ้าน จะไม่ได้อยู่กับแม่ เหมือนอยากให้เขาได้ฝึกด้วย”
“เกณฑ์การรับก็มีการสอบ ต้องดูว่ามีความเป็นเอเชียกี่เปอร์เซ็นต์ สอบจากที่นี่ไป แล้วไปสอบสัมภาษณ์ที่โน้นต่อ ทางนั้นเขาก็บอกไกด์ไลน์ในเชิงวิชาการ ว่าสอบประเภทไหน ซึ่งตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าลูกเราเก่งด้านไหน เหมือนยังอยู่อนุบาล ถึงตรงนั้นก็ดูกันอีกที สอบติดหรือเปล่ายังไม่รู้เลย”
“ถามว่าไปดูมากี่โรงเรียน จริงๆ ไปแค่ที่เดียว คือยังมีเวลาตัดสินใจอีกหลายปี เพียงแต่ว่าเป็นโรงเรียนที่อยู่ใกล้ลอนดอน มีคนแนะนำ พาไปดูได้ ก็ไปทำการบ้านไว้ ส่วนจะย้ายไปอยู่นั่นเลยมั้ย ก็สมมติว่าต้องไปอยู่จริงๆ ก็อาจไม่ได้มูฟไปเลย ก็ไปๆ มาๆ”
“ส่วนที่มีข่าวว่าจะพักงานแล้วย้ายไปอยู่เลย อีกตั้ง 9 ปี ก็ทำไม่ไหวแล้วป่ะ มันหง่อมมากเลยนะ ยังขายร้านเสื้อผ้าอยู่ตรงนั้นก็หมุนได้ ทุกวันนี้ในวงการก็แทบจะไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้ว ก็อาชีพแม่เป็นหลัก ตรงนี้ก็ถือว่า 20 เปอร์เซ็นต์”
“ไปดูบ้านที่นั่นไว้บ้าง งานในวงการค่อยๆ ลดลงคือเป็นเรื่องของอนาคต ถึงเวลานั้นอาจไม่มีคนสนใจ ถามว่าโรงเรียนของลูกมีตัวเลือกเดียวเลยใช่มั้ย จริงๆ ก็ยังเปลี่ยนไปมา ก็เปลี่ยนไปมาหลายที่ด้วย ส่วนลูกสาวอันนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง ถ้าเขาโต คนน้องก็อยู่แค่ประมาณ ป.2-ป.3 เขาก็จะ 8 ขวบ ตอนนี้ก็ยังมึนอยู่ว่าจะยังไง”
“ถามว่าลูกสาวอาจไปอยู่ด้วยมั้ย ก็มีสิทธิ์ อาจจะไปๆ มาๆ คือพ่อเขาเชื่อว่ายังไงก็ต้องส่ง คืออนาคตยังไม่รู้ ยังนึกภาพไม่ออก อาจจะอยู่ตรงนี้ 2 เดือน ตรงโน้นเดือนหนึ่ง มันเป็นเรื่องอนาคต ยังฟุ้งซ่าน คิดไว้หลายแบบ งานละครคงไม่มี แต่ว่าหนังมีแน่ เดือนมิถุนายน กับค่าย M39 ละครไม่มีใครกล้าติดต่อแล้ว เราไม่ไหวจริงๆ เราไม่สามารถทำงาน 6-9 เดือน ตอนนี้ก็เป็นบทบาทแม่ แต่หนังถ่ายไว้ปีที่แล้วค่ะ”