นำตัวผู้ต้องหาฆ่าโหดเซลล์สาวส่งฟ้องแล้ว ทนายอาสาเผยสารภาพทุกข้อกล่าวหา ตำรวจยื่นฝากขังคดีข่มขืนสาว 18 พร้อมกันวันนี้
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันทราย นำตัว นายณัฐพล พนักงานโรงงานตัวตัดเทป ที่ตัดเทป ผู้ต้องหาในคดีสะเทือนขวัญก่อเหตุข่มขืนฆ่าเซลล์จำหน่ายรถยนต์สาว ส่งฟ้องศาลจังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่ สภ.ดอยสะเก็ด นำสำนวนมาแจ้งข้อหาเพิ่มคดีข่มขืน ทำอนาจารและกักขังหน่วงเหนี่ยวสาววัย 18 ปี เพื่อส่งฟ้องพร้อมกับคดีล่าสุด ขณะที่นำตัวไปขึ้นรถผู้ต้องหาเข่าอ่อนล้มลงบนรถควบคุมผู้ต้องขัง และไม่ยอมปริปากพูดใดๆ ออกมา ส่วนทนายอาสาที่เข้าไปร่วมรับฟังการสอบสวนเผยผู้ต้องหาสารภาพทุกข้อกล่าวหา
วันนี้ (2 พ.ค.) ตลอดทั้งวันตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาจนถึงเวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันทราย ยังควบคุมตัวนายณัฐพล ผู้ต้องหาคดีสะเทือนขวัญ มาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยมีทนายอาสาที่ตำรวจได้เชิญมาร่วมรับฟังการสอบปากคำเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรพ์ เพื่อประกอบคำรับสารภาพ และสำนวนส่งฟ้อง ผู้ต้องหาใน ข้อหาหนักคือ ข่มขืนกระทำชำเรา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หน่วงเหนี่ยวกักของ พาไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย และเคลื่อนย้ายซ่อนเร้นอำพรางศพ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอยสะเก็ด เจ้าของคดีข่มขืน อนาจาร และกักขังหน่วงเหนี่ยว นำเอกสารสำนวนคดีมาให้ผู้ต้องหาเซ็น เพื่อที่จะไปร่วมฝากขังพร้อมกับคดีของ สภ.สันทรายในวันนี้
จนกระทั่งเมื่อเวลา 14.11 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันทราย ได้นำตัวนายณัฐพล ผู้ต้องหาออกมาจากห้องสอบสวน และเพื่อนำตัวขึ้นรถควบคุมตัวผู้ต้องหาไปส่งศาลจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อฝากขังและส่งฟ้องต่อศาล โดยผู้ต้องหาไม่ยอมตอบคำถามจากสื่อมวลชนที่มาติดตามทำข่าวแต่อย่างใด ขณะที่ท่าทางของผู้ต้องหาค่อนข้างจะอิดโรยจากการถูกดำเนินคดีและสอบสวน จนช่วงที่กำลังก้าวขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหามีลักษณะเหมือนขาอ่อนแรง จนทำให้ล้มลงกระแทกลงบนพื้นรถอย่างจัง แต่ก็ไม่ยอมเปิดปากตอบคำถามใดๆ
ก่อนหน้านี้มีการจัดหาทนายความอาสาเพื่อเข้าร่วมรับฟังการสอบสวนด้วยตามกฎหมาย ซึ่งเบื้องต้นนายณัฐพลถูกแจ้งข้อหา ข่มขืนกระทำชำเรา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หน่วงเหนี่ยวกักขัง พาไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย และเคลื่อนย้ายซ่อนเร้นอำพรางศพ
ทั้งนี้ ทนายความอาสา (ขอสงวนนาม) ที่เข้าร่วมรับฟัง เปิดเผยว่า เบื้องต้นนายณัฐพลให้การยอมรับสภาพทุกข้อกล่าวหา พร้อมเล่าว่าลงมือก่อเหตุข่มขืนและทำร้ายผู้ตายที่โรงแรมแห่งแรก เนื่องจากต่อสู้ขัดขืน โดยใช้ค้อนทุบและเชือกรัดคอจนแน่นิ่ง แต่อ้างว่าไม่มีเจตนาที่จะลงมือฆ่าแต่อย่างใด และไม่ทราบว่านางสาวอ้อมเสียชีวิตแล้ว จากนั้นได้นำตัวนางสาวอ้อมขึ้นท้ายรถยนต์เก๋ง เพื่อเคลื่อนย้ายไปไว้ที่โรงแรมอีกแห่งหนึ่งที่พบศพ เพราะคิดว่ายังไม่เสียชีวิต โดยมัดมือมัดปากไว้เพราะกลัวผู้ตายส่งเสียงดัง ส่วนที่ไม่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาล เนื่องจากตกใจ ซึ่งขั้นตอนจากนี้ตำรวจจะนำตัวฝากขังต่อศาลและส่งตัวเข้าเรือนจำต่อไป เนื่องจากผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา