พ่อเด็กชาย 2 ขวบ ไม่เชื่อลูกเสียชีวิตเพราะข้าวเหนียวติดคอ หลังถูกเพื่อนสนิทนำร่างยัดตู้เย็น ตำรวจรอผลชันสูตรศพพรุ่งนี้ เพื่อยืนยันสาเหตุการเสียชีวิต
พลตำรวจตรีสมปรารถนา แผ่นผา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยหลังเข้าสอบปากคำนายแบงค์ และนางสาวก้อย ผู้ต้องหาในคดี การเสียชีวิตของน้องนาย เด็กชายวัย 2 ขวบ ที่ร่างถูกยัดไว้ในตู้เย็น ที่บ้านพัก ย่านบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ว่า ผู้ต้องหาให้การว่าอ้างว่า การเสียชีวิตของน้องนาย เกิดจากอุบัติเหตุสำลักข้าวเหนียว ที่ คุณปู่เป็นคนป้อน และยอมรับว่าสาเหตุที่ไม่กล้าแจ้งความหรือนำตัวน้องนายไปส่งโรงพยาบาลทันทีที่เกิดเรื่อง เนื่องจากกลัวความผิด และไม่มีความรู้ด้านกฎหมาย
นอกจากนี้จากคำให้การของผู้ต้องหายังอ้างว่า น้องนายเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม และปล่อยร่างทิ้งไว้จนกระทั่งมีกลิ่น จึงนำร่างเข้าไปยึดไว้ในตู้เย็น เมื่อวันที่ 4 มกราคม ที่ผ่านมา พร้อมยอมรับว่า ผู้ต้องหาเคยลงมือทำร้ายน้องนายเนื่องจากดื้อและไม่เชื่อฟัง
แต่จากคำให้การทั้งหมด ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากต้องรอผล ตรวจนิติวิทยาศาสตร์ จากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิต เพื่อยืนยันว่าในกระเพาะอาหารของน้องนายมีข้าวเหนียวหรือไม่ แต่เบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งดำเนินคดี กับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ในข้อหาไม่แจ้งการเสียชีวิตและปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ
ด้านนายนพรัตน์ อายุ 29 ปีพนักงานโรงงานผลิต ซองกันกระแทก ซองบับเบิ้ล พ่อของน้องนาย วัย 2 ขวบ เปิดเผยว่า เนื่องจากตัวเองเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่ต้องทำงานตลอดเวลาไม่มีเวลาดูแลลูก จึงฝากลูกให้นายแบงค์และนางสาวก้อย ที่เป็นเพื่อนช่วยเลี้ยงดู โดยตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ระหว่างที่นายแบงค์ช่วยเลี้ยงลูกชาย ตัวเองได้โอนเงินให้ตลอด และครั้งล่าสุดที่โอนเงินให้คือเมื่อวานนี้ จำนวน 300 บาท โดยนายแบงค์อ้างว่าจะพาลูกชายไปเที่ยวเกาะล้าน
ส่วนคำให้การของนายแบงค์ ที่อ้างกับพนักงานสอบสวนว่าลูกชายเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ ข้าวเหนียวติดคอ นั้น ตัวเองไม่เชื่อ เพราะที่ผ่านมาก็เคยป้อนลูกชายด้วยข้าวเหนียว ก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ซึ่งถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้ตนเองจะไม่ฝากลูกให้กับนายแบงค์และนางสาวก้อยดูแล