ทอมหึงโหด วิ่งตามแฟนขึ้นท้ายรถพลเมืองดี สาดน้ำกรดใส่หน้า-จ้วงแทงกว่า 40 แผล อ้างกลัวสาวไปมีแฟนใหม่
เมื่อเวลาประมาณ 22.40 น. (6 ส.ค.65) ร.ต.อ.ญ.นาถอนงค์ โพธิสาร รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองหนองคาย รับแจ้งเหตุคนถูกทำร้ายร่างกายพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลหนองคายและผู้ก่อเหตุอยู่ที่โรงพยาบาล จึงประสานให้เจ้าหน้าที่ รปภ.โรงพยาบาลควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ก่อน และพร้อมด้วย พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งไปตรวจสอบ พบว่าผู้บาดเจ็บชื่อ น.ส.จตุพร อายุ 37 ปี อยู่ พนักงานขายซองไปรษณีย์พาสเทล ซองไปรษณีย์พาสเทล โดยตามใบหน้าถูกน้ำกรดสาด ตามลำตัวถูกแทงด้วยอาวุธมีคมกว่า 40 แผล แพทย์พยายามให้ความช่วยเหลือแต่ น.ส.จตุพร เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ น.ส.ธัญชนก อายุ 25 ปี แฟนของผู้เสียชีวิต ตามร่างกายมีคราบเลือดติดอยู่ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตได้คบหากันฉันชู้สาว โดยมีข้อบาดหมางกัน ฝ่ายหญิงผู้เสียชีวิตมีคนมาชอบพอหลายคน ทำให้ฝ่ายทอมไม่พอใจ ทะเลาะกันบ่อยครั้ง ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตไปทำงานตามปกติ ฝ่ายผู้ก่อเหตุใช้กุญแจสำรองเปิดรถเก๋งของผู้เสียชีวิตรออยู่ในลานจอดรถของห้าง โดยเตรียมน้ำกรดใส่เหยือกพลาสติก 1 เหยือก พกอาวุธมีดพกสั้น 1 เล่ม กริชยาว 10 ซม. 1 เล่ม นอนรออยู่เบาะด้านหลัง เมื่อถึงเวลาเลิกงานผู้เสียชีวิตเดินมาขับรถจะออกจากห้าง ผู้ก่อเหตุก็ปรากฏตัวและทะเลาะกัน
ผู้เสียชีวิตได้ขับรถไปถึงถนนเลี่ยงเมืองหนองคาย – เวียงจันทน์ ต.หนองกอมเกาะ ช่วงด่านป่าไม้หนองคาย แล้วจอดรถวิ่งหนี กระโดดขึ้นหลังรถกระบะของพลเมืองดีที่จอดอยู่ตรงนั้นพร้อมขอให้ช่วยเหลือพาไปโรงพยาบาล ผู้ก่อเหตุก็วิ่งถือเหยือกน้ำกรดและอาวุธกริชวิ่งขึ้นหลังรถกระบะ พลเมืองดีได้รีบขับรถจะพาไปโรงพยาบาลหนองคาย จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุได้ใช้น้ำกรดที่เตรียมมาสาดใส่หน้าและใช้กริชจ้วงแทงตามร่างกายหลายครั้ง จนพลเมืองดีขับรถไปถึงหน้าโรงพยาบาลหนองคาย รปภ.เห็นหลังรถกระบะมีทั้งผู้บาดเจ็บและผู้ก่อเหตุ จึงได้ช่วยจับผู้ก่อเหตุไว้ก่อน ส่วนผู้บาดเจ็บเจ้าหน้าที่เร่งให้ความช่วยเหลือแต่คาดว่าจะได้รับบาดเจ็บรุนแรงหลายแห่ง ทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัว น.ส.ธัญชนก ผู้ก่อเหตุไว้ แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยให้การรับสารภาพว่าทำไปเพราะความหึงหวง กลัวว่าผู้เสียชีวิตจะไปมีแฟนใหม่ ยอมรับความผิดที่ก่อไว้ และตำรวจห้ามประกันตัวซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่มีญาติมาติดต่อขอประกันตัวแต่อย่างใด