ซึ่งจากการสอบปากคำนายสิงห์ ผู้ต้องหาก็ให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดขอที่ใช้สำหรับตัดอ้อยกระหน่ำฟัน นางวิไล จนเสียชีวิตจริง โดยอ้างว่าโมโหที่ถูกนางวิไล ด่าบุพการีและต่อว่าด้วยถ้อยคำหยาบคายหลายครั้ง จึงทนไม่ไหวคว้ามีดกระหน่ำฟันจนตาย ทั้งยอมรับว่าตนเองมาอยู่กินกับนางวิไล แบบผัวเมียได้ประมาณ 1 เดือน ที่ผ่านมาเวลาดื่มเหล้าเมาก็จะทะเลาะกันประจำ ก็เป็นธรรมดาของผัวเมีย แต่ครั้งนี้ทนไม่ไหวจริงเพราะนางวิไลด่าถึงบุพการี แต่ก็รู้สึกผิดและอยากจะขอโทษคนภรรยาที่ลงมือฆ่าก็ไม่อยากให้จองเวรจองกรรมต่อกัน ส่วนตนก็จะขอรับโทษที่ได้ก่อ
ขณะบรรยากาศที่บ้านที่เกิดเหตุทางญาติและเพื่อนบ้านก็กำลังช่วยกันจัดสถานที่เพื่อจัดงานศพ นางวิไล ผู้ตาย ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่คิดว่านายสิงห์ ซึ่งเพิ่งมาอยู่กินกับผู้ตายได้เพียงเดือนเดียว จะลงมือฆ่ากันอย่างโหดเหี้ยมแบบนี้ได้ โดยเฉพาะ น.ส.ทุ่งทิวา อายุ 29 ปี ลูกสาวผู้ตาย บอกว่า หลังจากแม่อยู่กินกับนายสิงห์ ก็มีปากเสียงกันบ่อยเพราะทั้งคู่ก็ชอบดื่ม เวลาเมาแล้วก็อาจจะพูดจาไม่เข้าหูกันจึงทะเลาะกัน ซึ่งชาวบ้านก็ได้ยินจนเป็นเรื่องปกติ จึงไม่มีใครเข้าไปยุ่ง
ส่วนที่ผู้ตายอ้างว่าสาเหตุที่ลงมือฆ่าเพราะแม่ด่าบุพการีนั้น ก็เป็นคำกล่าวอ้างเพราะแม่ของตนตายไปแล้วไม่มีโอกาสได้ลุกขึ้นมาพูดหรือชี้แจงอะไร แต่ก็ยอมรับว่าแม่ตนเป็นคนปากร้ายพูดจาเสียงดัง แต่ถึงจะมีปากเสียงกันยังไงก็ไม่ควรจะลงทำกันรุนแรงถึงขั้นฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมแบบนี้ น่าจะแค่ดุด่าก็พอแล้ว ส่วนตัวตนไม่ขออโหสิกรรมหรือให้อภัยคนก่อเหตุ อยากให้ตำรวจลงโทษตามกฎหมายให้ถึงที่สุด เป็นไปได้ประหารชีวิตไปเลย เพราะเมื่อประมาณ 20 กว่าปีที่แล้ว ผู้ต้องหาก็เคยก่อเหตุฆ่าคนตายถูกจับติดคุกมาแล้ว พอพ้นโทษออกมา 4-5 ปี ก็มาก่อเหตุฆ่าแม่ของตัวเองอีก หากปล่อยออกมาก็ไม่รู้จะไปฆ่าใครตายอีก
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหานายสิงห์ “ฆ่าคนตายโดยเจตนา”