(8 ก.พ.63) เมื่อเวลา 07.50 น. นางรุ่งนภา กาบบัว ผู้ใหญ่บ้าน บ้านทองเกศ หมู่ 4 ตำบลเวียงมอง อำเภอสูงเม่นจังหวัดแพร่ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเกิดเหตุฆ่าตัวตายด้วยอาวุธปืน แต่เมื่อมาถึงสถานที่เกิดเหตุแล้วพบว่าเป็นการยิงกัน กลางถนนหน้าบ้านเหมู่ที่ 4 ต.เวียงทอง อ.สูงเม่น จ.แพร่ ใกล้กับสะพานข้ามแม่น้ำยม จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดย ร.ต.อ.อัสดง คำแปงคำ รองสารวัตรสอบสวน สภ.สูงเม่น จ.แพร่ ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวน จึงได้แจ้งผู้บังคับบัญชา พ.ต.อ.สุชาติ สิงห์ขรณ์ ผกก.สภ.สูงเม่น ทราบ และเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับชุดสืบสวน สภ.สูงเม่น เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดแพร่ แพทย์จากโรงพยาบาลสูงเม่น และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสูงเม่น

ที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตนอนงายอยู่ริมถนนสวม เสื้อยืดแขนสั้น เสื้อกั๊กหนัง กางเกงยีนส์ มีปืนออโตเมติก 9 มม ซิกซาวเออร์ตกอยู่ 1 กระบอก ใกล้กับศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายพร อายุ 57 ปี อดีตพนักงานโรงงานผลิต ถุงกระดาษคราฟท์ ถุงกระดาษเคลือบมัน บริเวณโดยรอบพบปลอกกระสุนปืนจำนวน 3 จุด ภายในตำบ้านพบปลอกกระสุนปืนไทยประดิษฐ์สีเขียว 1 นัด เมื่อค้นภายในบ้านหลังดังกล่าวพบ ปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาดเบอร์ 12 กระสุนลูกปลายขนาดเบอร์ 70 อยู่ถังขยะ และพบกองเลือดอยู่ภายในบ้าน และบริเวณท้ายรถกระบะโตโยต้า สีบรอนซ์ทองหมายเลขทะเบียน ณธ 3953 กรุงเทพมหานคร พบมีรอยกระสุนปืน 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุไว้

เมื่อสอบถามชาวบ้านทราบว่าคนยิงคือ นายประทวน ได้รับบาดเจ็บจากอาวุธปืนบริเวณขาข้างขวา เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.ต.สีหราช สุคันธมาลา สารวัตรสอบสวน สภ.สูงเม่น จึงตามไปสอบถามที่โรงพยาบาลแพร่เบื้องต้นทราบว่า ทั้งสองนั้นมีปากเสียงกันมานานแล้ว เมื่อช่วงเช้าก็ทะเลาะกันหน้าบ้านจากนั้นทั้งคู่ได้ไปหยิบปืนมาแล้วยิงใส่กัน

จากการชั้นสูตรเบื้องต้นพบว่าผู้เสียชีวิตโดนยิงบริเวณ ขมับข้างขวา 1 นัด และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบทราบว่าทั้งสองคนนั้นมีปากเสียง กันบริเวณหน้าบ้านของนายประทวน จากนั้นทั้งคู่ต่างเข้ากลับเข้าไปในบ้าน และเดินออกมาหน้าบ้านอีกครั้ง โดยมีลูกน้องของนายประทวน ยืนอยู่บริเวณหน้าด้วยอีก 1 คน จากกล้องวงจรปิดเห็นเพียงฝั่งของนายพร ที่ยิงปืนออกไป 3 นัดจากนั้นก็ล้มลง และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยผู้ที่เห็นเหตุการณ์ และที่อยู่ในกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการเรียกตัวมาสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง เพื่อสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง