รถทัวร์เสยท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้ โชเฟอร์-พนักงานหญิง ดับ 2 ศพ รถขับตามหลังมาชนต่อกันอีก 2 คัน
เมื่อเวลา 22.10 น.วันที่ 16 มิถุนายน 67 พ.ต.ท.สมบูรณ์ พุ่มขจร สว.สอบสวน สภ.ท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้รับแจ้งกิดเหตุรถทัวร์ปรับอากาศชนท้ายรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ และยังมีรถยนต์กระบะชนท้ายรถทัวร์ซ้ำซ้อนอีก 2 คัน บริเวณหน้าป้อมบริการประชาชนตำรวจทางหลวงท่าแซะ กม.ที่ 478 ม.8 ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ในที่เกิดเหตุมีผู้บาดเจ็บจำนวนมากและมีผู้เสียชีวิต 2 ราย จึงประสานชุดกู้ภัยกู้ภัยสายชลเขตเมืองและท่าแซะ ระดมเจ้าหน้าที่พร้อมรถพยาบาล ออกทำการช่วยเหลือ
โดยในที่เกิดเหตุอยู่บนถนนสายเพชรเกษม ขาขึ้นกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่พบรถทัวร์ปรับอากาศ 6 ล้อ สีขาวคาดแถบฟ้า-เหลือง หมายเลขทะเบียน 15-4515 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถร่วม บขส.หมายเลขข้างรถ 64-13 ม.1พ วิ่งระหว่างกรุงเทพฯ-ระนอง สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ภายในรถพบโชเฟอร์ชายทราบชื่อภายหลังคือนายธนากร และพนักงานต้อนรับหญิง ยังไม่ทราบชื่อ เสียชีวิตคาซากสภาพอัดติดคาอยู่เบาะคนขับและที่นั่งข้างคนขับ เจ้าหน้าที่จึงได้นำเครื่องตัดถ่างมาตัดชิ้นส่วนตัวรถ จนนำร่างทั้งสองออกมาได้ในสภาพกระดูกหักแหลกเหลวหลายท่อน
ในขณะที่ผู้โดยสาร จำนวน 24 คน ได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทกแขนขาหักและฟกช้ำหลายราย เจ้าหน้าที่ชุดกู้ชีพกู้ภัยได้ลำเลียงออกมาและทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำตัวส่ง รพ.ชุมพร รพ.ธนบุรี และ รพ.ท่าแซะ ส่วนคู่กรณีเป็นรถบรรทุกกึ่งพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ตัวหัวลาก หมายเลขทะเบียน 70-0900 ระนอง ส่วนตัวหาง หมายเลขทะเบียน 70-0901 ระนอง บรรทุกไม้ยางพาราตัดท่อน ขนาด 1.20 เมตรมาเต็มคัน ถุกชนด้านท้ายตัวส่วนหางบรรทุก จนชุดเพลาล้อคู่หลังหลุด จอดสนิทนิ่งอยู่บนเลนขวา บริเวณกลางจุดกลับรถพอดี ถุงแถบกาว ถุงแพ็คเสื้อ
Advertisement
ในขณะเดียวกันยังมีรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ตอนเดียว หมายเลขทะเบียน 1979 ชุมพร มีนายนิพนธ์ อายุ 52 ปี ขับชนท้ายรถทัวร์ และมีรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีน้ำเงิน ตอนครึ่งหมายเลขทะเบียน 1691 ชุมพร มีนายศรณ์ฉัตร อายุ 45 ปี ขับชนรถกระบะของนายนิพนธ์ อีกที ซึ่งรถของทั้งสองเสียหายยับเยินทั้งคู่
จากการสอบถาม นายมาโนช อายุ 40 ปี คนขับรถพ่วงบรรทุกไม้ ทราบว่า ตนเองได้ขึ้นไม้มาจาก ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง เพื่อจะไปส่งเข้าโรงงานแปรรูปไม้ ที่ จ.ตรัง และเมื่อมาถึง จ.ชุมพร จำเป็นต้องขับขึ้นมาทางกรุงเทพ เพื่อจะเติมก๊าซที่ปั๊มบริการก่อน นายมาโนช กล่าวว่า ตลอดที่ขับเลี้ยวซ้ายมาจากสี่แยกปฐมพร มากว่า 7 กม.ได้ขับเลนซ้ายมา จนมาถึงปั๊มเติมก๊าซ ซึ่งอยู่ฝั่งถนนขาล่องใต้ ตนจึงได้ขับชิดขวามาอย่างช้าๆ พร้อมเปิดไฟเลี้ยวขวา เป็นระยะทางกว่า 500 เมตร จนมาถึงจุดกลับรถ ตนเองได้จอดรถเพื่อรอให้ถนนว่าง จะได้เลี้ยว แต่จอดรอได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงดังสนั่นโครมใหญ่ จนรถสั่นสะเทือนทั้งคัน และไหลไปตามแรงดัน ก่อนจะมีเสียงดังโครมอีก 2 ครั้งติดกัน
เมื่อรถจอดสนิท ก็เปิดประตูลงมาดูก็พบว่ามีรถทัวร์ชนเสยท้ายอย่างแรง จนชุดเพลาล้อคู่หลังหลุดจากคลัชซีไปและไม้ที่บรรทุกมา ได้ไหลตกจากกระบะจำนวนมาก พื้นถนนเจิ่งนองไปด้วยน้ำมันที่ไหลทะลักจากถังน้ำมันของรถทัวร์ และพบว่าคนขับรถทัวร์ถูกอัดติดกับพวงมาลัย จึงได้แจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว
ด้านนายนิพนธ์ และ นายศรณ์ฉัตร เปิดเผยสอดคล้องกันว่า ตนเองได้ขับรถตามกันมา โดยมีรถทัวร์อยู่ด้านหน้า ใช้ความเร็ว ประมาณ 80 กม./ชม.จนมาถึงที่เกิดเหตุอยู่ๆเหมือนรถทัวร์จะจออดนิ่งอย่างกะทันหัน ตนเองทั้งสองคัน ไม่สามารถจะห้ามรถหยุดได้ทัน พุ่งชนท้ายต่อๆ กันจนสภาพรถพังเสียหายดังกล่าว อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ ได้บันทึกภาพและสอบปากคำพยานแวดล้อมไว้จำนวนหนึ่ง ก่อนจะให้เจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัย ระดมเร่งทำความสะอาดและยกแยกรถทั้งหมดออกไปจากสถานที่เกิดเหตุ เนื่องจากการจราจรติดขัด รถจำนวนมากติดเป็นแถวยาวกว่า 3 กม.หลังจากนี้ก็จะสอบสวนเพิ่มเติมพยานบุคคลซึ่งเป็นผู้โดยสาร อีกครั้ง เพื่อสรุปสำนวนคดี โดยมีทางเจ้าหน้าที่จากสำนักงานขนส่งจังหวัดชุมพร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านความปลอดภัยด้านการจราจรคณะจังหวัด ได้ร่วมลงมาติดตามตรวจสอบเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย